

การติดบุหรี่เป็นการติด 2 ทางร่วมกัน คือ
1. การติดทางร่างกาย
2. การติดทางจิตใจ
การติดทางร่างกายคือการที่ร่างกายติดสารนิโคติน เกิดจากการสูบบุหรี่อยู่เป็นประจำจนร่างกายติดสารนิโคตินซึ่งเป็นสารเสพติดที่อยู่ในบุหรี่ เมื่อหยุดสูบบุหรี่สารนิโคตินในร่างกายจะลดลงทำให้เกิดอาการขาดนิโคตินได้แก่ อาการหงุดหงิด กระวนกระวาย คิดอะไรไม่ออก ต้องหาบุหรี่มาสูบเพื่อเติมนิโคตินให้เพียงพอดังเดิม
เมื่อหยุดสูบบุหรี่ภาวะเสพติดทางร่างกายจะค่อยๆหายไปในเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ดังนั้นถ้าเราสามารถทนหยุดสูบบุหรี่ได้เพียง 2-3 สัปดาห์ ร่างกายของเราก็จะพ้นจากภาวะติดบุหรี่
วิธีต่อสู้กับการติดทางร่างกาย คือ
1. หยุดสูบบุหรี่ให้ได้สัก 2-3 สัปดาห์
2. ใช้ยาช่วย
การติดทางจิตใจคือการสูบบุหรี่จนติดเป็นนิสัย เกิดจากการเรียนรู้ว่าการสูบบุหรี่ทำให้หายเครียด เพลิดเพลิน หายเบื่อ สมองแล่น ทำให้เกิดการติดอกติดใจอยากสูบเรื่อยๆ จนติดเป็นนิสัยหรือเป็นความเคยชินอย่างหนึ่ง เมื่อไหร่ที่รู้สึกเครียดหรือเบื่อๆ ก็จะคิดถึงบุหรี่ ภาวะเสพติดทางจิตใจเป็นสาเหตุสำคัญ ของการกลับมาสูบใหม่หลังจากเลิกได้แล้ว ดังนั้นผู้ที่พยายามเลิกสูบบุหรี่และผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ได้แล้วยังต้องปฏิบัติตนเพื่อการเลิกสูบบุหรี่ต่อไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็น "นิสัย" หรือเป็นความเคยชินอันใหม่ที่ไม่มีการสูบบุหรี่
การต่อสู้กับการติดทางใจมีหลายวิธี
1. หลีกเลี่ยงสิ่งยั่วยุหรือกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดความอยากสูบบุหรี่ เช่น
ไม่พกบุหรี่ติดตัว
ทิ้งอุปกรณ์สูบบุหรี่ทั้งหมด
ไม่เข้าใกล้คนที่กำลังสูบบุหรี่
เลือกที่นั่งในบริเวณที่ห้ามสูบบุหรี่
ถ้าดื่มกาแฟหรือเหล้าแล้วอยากสูบบุหรี่ ก็ให้หยุดดื่มหรือเปลี่ยนไปดื่มอย่างอื่นแทน
ถ้าต้องสูบบุหรี่หลังอาหารก็ให้ลุกขึ้นหา อะไรทำทันทีที่รับประทานอาหารอิ่ม
2. เบี่ยงเบนความสนใจเมื่อเกิดความอยากสูบบุหรี่ขึ้นมา เช่น อาบน้ำ หาอะไรทำ เล่นกีฬา
3. เสริมสร้างกำลังใจ ในการเลิกสูบบุหรี่ เช่น
คิดทบทวนผลเสียของการสูบบุหรี่และผลดีของการหยุดสูบบุหรี่
บอกคนรอบข้างว่าท่านกำลังพยายามหยุดสูบบุหรี่ เพื่อพวกเขาจะได้ช่วยเชียร์และไม่มายั่วหรือ ส่งบุหรี่ให้เวลาท่านหงุดหงิดเขาจะได้เข้าใจ
ทำให้ท่านต้องพยายามอย่างจริงจังมากขึ้น
เก็บเงินค่าบุหรี่ใส่กระปุกออมสินไว้
ให้รางวัลตัวเองถ้าเลิกสูบบุหรี่ได้ ฯลฯ
4. หาวิธีอื่นๆ ในการจัดการกับความเครียด
วิธีจัดการกับความเครียดนั้นมีมากมายหลายวิธี บางคนใช้วิธีดูหนัง ฟังเพลง เล่นกีฬา บางคนใช้วิธีปิดห้องแล้วตะโกนดังๆ หรือลองศึกษา สังเกตุดูพฤติกรรมของพรรคพวกเพื่อนฝูงที่ไม่สูบบุหรี่ว่าเขาจัดการกับความเครียดอย่างไร ทดลองใช้วิธีจัดการกับความเครียดแบบต่างๆ ดู แล้วจดจำวิธีที่ท่านชอบเอาไว้ใช้
5. กำหนดวันที่จะหยุดสูบอย่างเด็ดขาด
เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวและ "ทำใจ" อาจจะกำหนดโดยใช้วันที่มีความหมายพิเศษบางอย่างเช่น วันเกิด วันครบรอบแต่งงาน วันเกิดลูก หรืออาจกำหนดเป็นระยะเวลาเช่นอีก 3 วัน 7 วัน หรือ 10 วัน หรืออีก 2 สัปดาห์ก็ได้ หลังจากนั้นให้ใช้เวลาช่วงนี้ค่อยๆ พยายามลดการสูบบุหรี่ลง โดยจำกัดจำนวนบุหรี่ที่จะสูบในแต่ละวันลงเรื่อยๆ สูบเพียงครึ่งมวนแล้วทิ้ง กำหนดวันที่จะไม่สูบบุหรี่เลยทั้งวันจากสัปดาห์ละ 1 วัน แล้วค่อยๆ เพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 2 วัน 3 วัน หรือค่อยๆ เพิ่มเป็น 2 วันติดกัน 3 วันติดกัน ฯลฯ
ในระหว่างนี้ให้พยายามปฏิบัติตามวิธีที่กล่าวมาแล้วไปด้วยคือ หลีกเลี่ยงสิ่งยั่วยุ เบี่ยงเบนความสนใจ เสริมสร้างกำลังใจ และเปลี่ยนวิธีจัดการกับความเครียด เมื่อถึงวันที่ท่านกำหนดว่าจะหยุดสูบบุหรี่ให้ทิ้งบุหรี่ที่เหลือและอุปกรณ์การสูบบุหรี่ให้หมดแล้วหยุดสูบบุหรี่ทันที แล้วปฏิบัติตามวิธีข้างต้นต่อไปจนสามารถหยุดสูบบุหรี่ได้เด็ดขาดและเกิดเป็น "นิสัย" หรือความคุ้นเคยอันใหม่ที่ไม่ต้องสูบบุหรี่
การใช้ "ยาช่วยอดบุหรี่" ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้การอดบุหรี่ง่ายขึ้นการใช้ยาสามารถช่วยลดความทรมานจากการติดทางร่างกาย ได้ทำให้เราสามารถทุ่มเทกำลังใจในการต่อสู้กับการติดทางจิตใจได้เต็มที่ การใช้ยาที่มีการศึกษาว่าช่วยให้การเลิกสูบบุหรี่ประสบความสำเร็จมากขึ้นคือการให้นิโคตินทดแทนในรูปของ หมากฝรั่งนิโคตินและแผ่นปะนิโคติน
หลักการของหมากฝรั่งและแผ่นปะนิโคติน
คือ การให้นิโคตินแก่ร่างกายในขนาดต่ำๆ เพื่อระงับอาการขาดนิโคตินแล้วค่อยๆ ลดขนาดยาลงเรื่อยๆ จนหมด ทั้งหมากฝรั่งและแผ่นปะนิโคตินใช้ได้ผลใกล้เคียงกันแต่ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันบ้างคือเราสามารถใช้แผ่นปะนิโคตินได้ตลอดเวลารวมทั้งเวลานอนด้วย ทำให้เมื่อตื่นขึ้นมาเราจะไม่ค่อย "หิว" บุหรี่ ส่วนหมากฝรั่งนิโคตินนั้นเราสามารถเพิ่มหรือลดปริมาณนิโคตินได้เองในระดับหนึ่งโดยการเคี้ยวถี่หรือห่างลง นอกจากนี้การเคี้ยวหมากฝรั่งนิโคตินยังช่วยลดความ "เหงาปาก" ได้ด้วยแต่การใช้ยาก็มีข้อจำกัดคือ เมื่อเริ่มใช้ยาผู้สูบบุหรี่
ต้องหยุดสูบทันที การใช้ยาไปด้วยแล้ว "ค่อยๆ สูบน้อยลง" จะทำให้เลิกสูบบุหรี่ ไม่สำเร็จ นอกจากนั้นปริมาณนิโคตินโดยรวมที่ร่างกายได้รับเข้าไปอาจมากเกินไปทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นการใช้ยาทั้ง 2 ชนิดนี้จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
ข้อปฏิบัติในการป้องกันการสูบบุหรี่ กรณีคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่ก็ไม่ควรริลอง ไม่ควรคิดว่าเป็นเรื่องโก้เก๋หรือทำตามเพื่อน ในการป้องกันสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
การป้องกันตัวเอง
1. ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับโทษพิษภัยของบุหรี่ ประโยชน์ของการไม่สูบบุหรี่
2. รู้จักตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยเหตุผล หากไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ควรปรึกษา พ่อ แม่ ครู หรือญาติผู้ใหญ่ที่ไว้ใจ
3. ไม่ทดลองสูบบุหรี่ และกล้าที่จะปฏิเสธเมื่อมีผู้อื่นชักชวน
4. ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
การป้องกันในครอบครัว
1. สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวโดยให้ความรัก ความเข้าใจ ความใกล้ชิดระหว่าง พ่อ แม่ ลูก และให้คำปรึกษาแนะนำเมื่อลูกมีปัญหา
2. พ่อแม่ต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เช่น ไม่สูบบุหรี่ ไม่เสพสารเสพติด
การป้องกันในโรงเรียน
1. ครูอาจารย์ต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีเป็นที่ปรึกษาแนะนำในการปฏิบัติตัวในทางที่ถูกต้องเหมาะสม
2. ครูอาจารย์ต้องคอยสอดส่องพฤติกรรมของนักเรียนรวมทั้งประสานงานกับผู้ปกครองเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของบุหรี่ในโรงเรียน
3. ครูอาจารย์ต้องศึกษาความรู้ เรื่องบุหรี่และสารเสพติดและวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี
การป้องกันในชุมชน
ทุกคนในชุมชนต้องมีส่วนร่วมที่จะทำให้ชุมชนอยู่ร่วมกันโดยปราศจากบุหรี่และสารเสพติด
8 วิธีการเลิกบุหรี่
การเลิกบุหรี่ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ หรือด้วยกระบวนการทางการแพทย์ สามารถช่วยอาการติดแบบ Psysical Addiction ได้ แต่สำหรับ Habit แล้ว ต้องอาศัยกำลังใจความเข้มแข็ง และความตั้งใจจริง ถ้าหากคุณเป็นผู้หนึ่ง ที่คิดจะเลิกบุหรี่ในวันงดบุหรี่โลก หรือวันไหนก็แล้วแต่ ที่ถือเป็นวันดีสำหรับคุณลองมาปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้ เพราะมันจะช่วยให้คุณ ไม่หวนกลับมาหาบุหรี่อีกเลย
1. ทิ้งบุหรี่ที่คุณมีอยู่ให้หมด หาให้ทั่วว่าคุณอาจจะซุกซ่อนบุหรี่ของคุณเอาไว้ที่ไหน ในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง เสื้อแจ็คเก็ต ลินชักโต๊ะทำงานโยนทิ้งไม่ให้เหลือแม้กระทั่งมวนเดียว ไม่ว่ามันจะมีราคาแพงแค่ไหนก็อย่าเสียดายเป็นอันขาด
2. ที่เขี่ยบุหรี่ก็ทิ้งไปเสียด้วย กรณีที่เสียดายเพราะมันเป็นเครื่องตกแต่งราคาแพง อาจจะยกให้คนอื่นไปเสีย หรือนำไปเก็บไว้ในที่ ๆ คุณแน่ใจว่า จะไม่มองเห็นหรือหยิบออกมาได้โดยง่าย
3. เปลี่ยนทรงผม จะได้ดูว่า เรากำลังจะเป็นคนใหม่
4. ทำความสะอาดบ้านและเครื่องเรือนทั้งหมด รวมทั้งเสื้อผ้าก็นำมาซักให้สะอาด ให้กลิ่นบุหรี่หมดไป จริงอยู่คนสูบบุหรี่จะไม่ได้กลิ่นเหล่านี้หรอก เพราะความเคยชิน แต่เมื่อเลิกแล้ว คุณจะได้กลิ่นของมัน
5. ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ เพราะมันจะช่วยชำระล้าง Nocotine ออกจากร่างกาย และยังช่วยบรรเทาอาการอยากบุหรี่ได้ด้วย
6. ลดปริมาณสาร Caffeine ที่รับประทานในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นชาหรือกาแฟก็ตาม โดยก่อนการเลิกบุหรี่ ควรจะพยายามลดปริมาณสารนี้ให้ได้ประมาณครึ่งหนึ่งของที่เคยรับประทานในแต่ละวัน เพราะ Nicotine ทำให้ caffeine ซึมเข้าร่างกายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ถ้าหากคุณรับประทาน Caffeine ในปริมาณเท่าเดิม ขณะที่สูบบุหรี่ อาจจะนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า Caffeine Toxicity โดยมีอาการ กระวนกระวายและเครียดได้ แลtนั่นอาจจะทำให้คุณหันกลับไปสูบบุหรี่อีกครั้ง
7. ออกกำลังกาย เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้เราเอาใจออกห่างจากบุหรี่ได้ด้วย
8. หาเพื่อนที่มีความต้องการจะเลิกบุหรี่ด้วยกันสักคน แล้วเลิกพร้อมกันเพื่อที่จะได้เป็นที่ปรึกษา คอยเตือนและคอยให้กำลังใจกัน หรืออาจจะเป็นการหาแรงบันดาลใจอื่น เช่น เลิกเพื่อลูก เลิกเพื่อบิดามารดา หรือคนรักก็ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น