วันอาทิตย์, กรกฎาคม 6, 2008
สรุป สิ่งที่เรียนในห้องเรียน 30/06/2551
นางสาวอัญชลี พันกลั่น 491102064132
วิทยาการคอมพิวเตอร์ห้อง 1 ปี 3
แนวคิดเกี่ยวกับข้อมูลในสำนักงาน
ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงซึ่งเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ สิ่งของ หรือเหตุการณ์ ข้อมูลอาจจะเป็นได้ทั้งตัวเลข ตัวอักษร ข้อความ เสียง ภาพนิ่ง ภาพกราฟิก หรือภาพยนตร์ โดยทั่วไปแล้วข้อมูลมักจะเกิดขึ้นอย่างไม่มีระเบียบ และไม่ได้ผ่านการประมวลผล
สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ได้ถูกนำมาประมวลผลเพื่อใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงาน หรือตัดสินใจ เพื่อสนับสนุนในงานที่เกี่ยวข้อง
การจัดการข้อมูลในสำนักงาน
ความจำเป็นของการจัดการข้อมูลในสำนักงาน
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้องมีการจัดการข้อมูลในสำนักงาน มีดังนี้
- ปริมาณข้อมูลในสำนักงาน (data volume) การจัดการข้อมูลที่ดีทำให้ข้อมูลมีระเบียบง่ายต่อการนำไปใช้
- การใช้ข้อมูลร่วมกัน (data sharing) การจัดการข้อมูลช่วยทำให้ข้อมูลมีความเป็นปัจจุบัน ผู้ใช้นำข้อมูลไปใช้ได้อย่างเหมาะสมและให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง
- ความถูกต้องแม่นยำของข้อมูล (data accuracy)
- ความสมบูรณ์ของข้อมูล (data integrity)
- ความปลอดภัยของข้อมูล (data security) การจัดการข้อมูลช่วยให้มีการรักษาความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับข้อมูลในองค์การ
แนวทางการพัฒนาฐานข้อมูลในสำนักงาน
การพัฒนาฐานข้อมูลในสำนักงาน มีกระบวนการหรือวงจรที่ใช้ในการพัฒนาฐานข้อมูล (Database Life Cycle , DBLC) ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน คือ
การศึกษาเบื้องต้นเพื่อจัดทำฐานข้อมูล
มีวัตถุประสงค์เพื่อทำความเข้าใจโครงสร้างการทำงาน ปัญหาการทำงานและขอบเขตของการจัดทำฐานข้อมูล ประกอบด้วย
- การวิเคราะห์องค์การ จะทำการศึกษานโยบาย วัตถุประสงค์ สภาพการทำงาน โครงสร้างของหน่วยงาน
- การกำหนดปัญหาและเงื่อนไข เป็นการศึกษาปัญหาจากการปฏิบัติงาน ระบบข้อมูลที่มีอยู่
- การกำหนดวัตถุประสงค์ เป็นการกำหนดวัตถุประสงค์การจัดทำฐานข้อมูล และผู้ที่จะใช้ฐานข้อมูล
- การกำหนดขอบเขต เป็นการกำหนดขอบเขตของการจัดทำฐานข้อมูล
ระบบความปลอดภัยของข้อมูลในสำนักงาน
ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลในสำนักงาน ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบคือ
- คน ในที่นี้มี 2 กลุ่ม คือ
- พนักงานของหน่วยงานที่ไม่เจตนาทำความเสียหายแก่ข้อมูล
- พนักงานของหน่วยงานที่เจตนาทำความเสียหายแก่ข้อมูล
- ฮาร์ดแวร์
- ซอฟต์แวร์
- ไวรัสคอมพิวเตอร์
- ภัยธรรมชาติ
.อาชญากรคอมพิวเตอร์
อาชญากรคอมพิวเตอร์ (computer criminal) คือคนที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ที่สร้างความเสียหายในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และข้อมูล ประกอบด้วย
1 ลูกจ้างของกิจการ
2 ลูกค้าหรือคู่ค้าของกิจการ
3 บุคคลทั่วไป
ไวรัสคอมพิวเตอร์
ความหมายของไวรัสคอมพิวเตอร์
ไวรัสคอมพิวเตอร์ (computer virus) หมายถึง โปรแกรมที่เขียนขึ้นโดยมีความสามารถในการแพร่กระจายจากระบบคอมพิวเตอร์หนึ่งไปยังระบบคอมพิวเตอร์อื่นๆ ในการแพร่กระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์จะแทรกตัวไปกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลหรือซ่อนตัวอยู่ในหน่วยความจำทั้งในหน่วยความจำหลักหรือหน่วยความจำสำรองก็ได้
วิธีการแพร่ระบาดของไวรัสคอมพิวเตอร์
2.1 ทางดิสเกตต์ (deskette) เมื่อนำแผ่นดิสเกตต์ที่มีไวรัสคอมพิวเตอร์ซ่อนตัวอยู่มาใช้งาน ไวรัสนั้นก็จะเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้น
2.2 ทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (computer network) เป็นการแพร่ระบาดโดยผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น ไปรษณีย์อิเล็กนิกส์ กระดานข่าว เป็นต้น
ความเสียหายที่เกิดจากไวรัสคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างความเสียหายที่จากไวรัสคอมพิวเตอร์ เช่น
- การปรากฏข้อความในลักษณะต่างๆ ซึ่งสร้างความรำคาญให้แก่ผู้ใช้งาน
- การลบหรือทำลายโปรแกรมหรือข้อมูล
- การทำให้โปรแกรมหรือข้อมูลนั้นใช้งานไม่ได้
- การทำให้โปรแกรมทำงานผิดๆ ถูกๆ
- การขยายหรือแพร่กระจายตัวเองในคอมพิวเตอร์ จนกระทั่งไม่มีเนื้อที่เหลือที่จะใช้งานใดๆ ต่อไป
- การควบคุมการทำงานบางคำสั่งของโปรแกรมระบบทำงานผิดไปจากเดิม
วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น